หันไปทางไหนใครๆ ก็พูด ภาษาอังกฤษ ได้ เหลือแต่เราที่พูดได้ฟังได้แบบแค่งูๆ ปลาๆ เฮ้อ! เรียนมาก็ตั้งนาน ฟังมาก็ตั้งเยอะ ทำไมมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาขึ้นเลยล่ะ! แต่อย่าเพิ่งท้อไป จำไว้ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น” และเพื่อเป็นการช่วยให้คุณได้บรรลุเป้าหมายนี้ วันนี้เราเลยมาขอแนะนำทริคเล็กๆน้อยๆ พร้อมเอาเว็บไซต์พัฒนาการฟังที่เป็นประโยชน์กับทุกคนมาฝากกัน!
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนนำมาตัดสินว่าคุณเก่ง ภาษาอังกฤษ แล้ว คือ คุณพูดได้ปร๋อ ฟังรู้เรื่องทุกคำ ทุกประโยค แต่ว่าจะเริ่มยังไงดีล่ะ? มีคนบอกว่าให้เราเรียนรู้เหมือนกับตอนที่เราเป็นเด็กน้อยหัดพูด ตอนนั้นคุณพูดไม่ได้เลย สิ่งที่ทำได้คือแค่ฟังเท่านั้น ต่อมาคุณก็เริ่มพูดตาม หลังจากนั้นก็พูดไม่หยุดอีกต่อไป พูดจนน้ำไหลไฟดับ ลิงจะหลับใครจะฟังไม่ฟังก็ยังคงพูดอยู่ (แหะๆ ตัวนักเขียนเองแหละ) คุณสังเกตเห็นไหมว่า ก่อนที่เราจะพูดได้ เราต้องฟังก่อน ฟังเยอะๆ ฟังมากๆ ฟังแยกคำ ฟังจนเข้าใจ ฟังจนสุดท้ายคุณก็เลียนเสียง เลียนสำเนียงจนเหมือนในที่สุด
นี่แหละคือจุดเริ่มต้น!
ในการเรียนรู้จากการฟัง คุณควรเลือกเรียนจากสิ่งที่คุณชอบเสียก่อน คุณชอบฟังเพลง ดูหนัง ฟังนิทาน หรือฟังข่าว ก็หยิบกิจวัตรประจำวันใกล้ตัวของคุณเหล่านี้มาเป็นแบบฝึก ภาษาอังกฤษ ซะ
1. ฝึกการฟังจากเพลง
แนะนำให้ลองลบเพลงไทยออกจากโทรศัพท์ของคุณให้หมด เหลือไว้แต่เพลง ภาษาอังกฤษ (ทางที่ดีใส่เนื้อเพลงลงไปด้วย) พอคุณออกไปข้างนอกแล้วอยากฟังเพลง คุณก็จำต้องฟังเพลงอังกฤษ อีกวิธีหนึ่งที่ครูสอน ภาษาอังกฤษ มักใช้คือ ให้คุณเลือกเพลงมาหนึ่งเพลง เปิดเพลงฟังแล้วเขียนเนื้อเพลงตามที่คุณได้ยินลงในกระดาษ แต่ห้ามเปิดดูเนื้อเพลงก่อนนะ วิธีนี้มักจะได้ผลลัพท์ฮาๆ เสมอ เพราะคุณมักจะได้ยินคำที่ไม่มีใน ภาษาอังกฤษ พอดูเฉลยเท่านั้นแหละ…รู้เลย
2. ฝึกการฟังจากการดูหนัง
เริ่มจากดูหนังโดยดูแบบเปิดซับภาษาอังกฤษเพื่อเน้นการฟังก่อนในครั้งแรก แล้วจึงดูอีกรอบโดยลองเอาซับออกแล้วพยายามฟังให้ออกว่าตัวละครพูดคำว่าอะไร ถ้าฟังไม่ออกก็แอบเปิดซับ ซึ่งหัวใจของขั้นตอนนี้คือ “คุณต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูซ้ำจนกว่าคุณจะฟังรู้เรื่องทั้งหมด” ไม่รู้ความหมายก็ไม่เป็นไร ปล่อยมันไป let it go
***แต่จริงๆแล้ว หากคุณฟังหนังออกทั้งเรื่อง คุณจะรู้ความหมายไปในต้ว เพราะคุณเข้าใจมัน
3. ฝึกการฟังจากนิทาน
อีกวิธีหนึ่งสำหรับมือใหม่มากๆ คือ เริ่มจากการฟังนิทานง่ายๆ จะฟังนิทานก่อนนอนบนยูทูปก็ได้ เพียงเสิร์ชคำว่า “Bedtime Story” ก็จะมีนิทานหลายเรื่องให้มาคุณเลือก ลองฝึกฟังแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ฟังให้เข้าใจ ฟังให้ออกทุกคำก่อนโดยไม่เปิดซับ ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยเปิด แล้วก็ฟังใหม่จนกว่าคุณจะฟังออกทุกคำโดยไม่ต้องเปิดซับไตเติ้ล
4. ฝึกการฟังจากข่าว
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ฟังออกระดับหนึ่งแล้ว ถ้าคุณเพิ่งเริ่มฝึกแล้วกระโดดมาทำวิธีนี้ ร้อยทั้งร้อยท้อถอยจนวิ่งหนีภาษาอังกฤษกันไปหมด
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนนำมาตัดสินว่าคุณเก่ง ภาษาอังกฤษ แล้ว คือ คุณพูดได้ปร๋อ ฟังรู้เรื่องทุกคำ ทุกประโยค แต่ว่าจะเริ่มยังไงดีล่ะ? มีคนบอกว่าให้เราเรียนรู้เหมือนกับตอนที่เราเป็นเด็กน้อยหัดพูด ตอนนั้นคุณพูดไม่ได้เลย สิ่งที่ทำได้คือแค่ฟังเท่านั้น ต่อมาคุณก็เริ่มพูดตาม หลังจากนั้นก็พูดไม่หยุดอีกต่อไป พูดจนน้ำไหลไฟดับ ลิงจะหลับใครจะฟังไม่ฟังก็ยังคงพูดอยู่ (แหะๆ ตัวนักเขียนเองแหละ) คุณสังเกตเห็นไหมว่า ก่อนที่เราจะพูดได้ เราต้องฟังก่อน ฟังเยอะๆ ฟังมากๆ ฟังแยกคำ ฟังจนเข้าใจ ฟังจนสุดท้ายคุณก็เลียนเสียง เลียนสำเนียงจนเหมือนในที่สุด
เรียนภาษาอังกฤษ
นี่แหละคือจุดเริ่มต้น!
ในการเรียนรู้จากการฟัง คุณควรเลือกเรียนจากสิ่งที่คุณชอบเสียก่อน คุณชอบฟังเพลง ดูหนัง ฟังนิทาน หรือฟังข่าว ก็หยิบกิจวัตรประจำวันใกล้ตัวของคุณเหล่านี้มาเป็นแบบฝึก ภาษาอังกฤษ ซะ
1. ฝึกการฟังจากเพลง
แนะนำให้ลองลบเพลงไทยออกจากโทรศัพท์ของคุณให้หมด เหลือไว้แต่เพลง ภาษาอังกฤษ (ทางที่ดีใส่เนื้อเพลงลงไปด้วย) พอคุณออกไปข้างนอกแล้วอยากฟังเพลง คุณก็จำต้องฟังเพลงอังกฤษ อีกวิธีหนึ่งที่ครูสอน ภาษาอังกฤษ มักใช้คือ ให้คุณเลือกเพลงมาหนึ่งเพลง เปิดเพลงฟังแล้วเขียนเนื้อเพลงตามที่คุณได้ยินลงในกระดาษ แต่ห้ามเปิดดูเนื้อเพลงก่อนนะ วิธีนี้มักจะได้ผลลัพท์ฮาๆ เสมอ เพราะคุณมักจะได้ยินคำที่ไม่มีใน ภาษาอังกฤษ พอดูเฉลยเท่านั้นแหละ…รู้เลย
2. ฝึกการฟังจากการดูหนัง
เริ่มจากดูหนังโดยดูแบบเปิดซับภาษาอังกฤษเพื่อเน้นการฟังก่อนในครั้งแรก แล้วจึงดูอีกรอบโดยลองเอาซับออกแล้วพยายามฟังให้ออกว่าตัวละครพูดคำว่าอะไร ถ้าฟังไม่ออกก็แอบเปิดซับ ซึ่งหัวใจของขั้นตอนนี้คือ “คุณต้องดูซ้ำแล้วซ้ำอีก ดูซ้ำจนกว่าคุณจะฟังรู้เรื่องทั้งหมด” ไม่รู้ความหมายก็ไม่เป็นไร ปล่อยมันไป let it go
***แต่จริงๆแล้ว หากคุณฟังหนังออกทั้งเรื่อง คุณจะรู้ความหมายไปในต้ว เพราะคุณเข้าใจมัน
3. ฝึกการฟังจากนิทาน
อีกวิธีหนึ่งสำหรับมือใหม่มากๆ คือ เริ่มจากการฟังนิทานง่ายๆ จะฟังนิทานก่อนนอนบนยูทูปก็ได้ เพียงเสิร์ชคำว่า “Bedtime Story” ก็จะมีนิทานหลายเรื่องให้มาคุณเลือก ลองฝึกฟังแบบง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องรีบร้อน ฟังให้เข้าใจ ฟังให้ออกทุกคำก่อนโดยไม่เปิดซับ ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยเปิด แล้วก็ฟังใหม่จนกว่าคุณจะฟังออกทุกคำโดยไม่ต้องเปิดซับไตเติ้ล
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง
4. ฝึกการฟังจากข่าว
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่ฟังออกระดับหนึ่งแล้ว ถ้าคุณเพิ่งเริ่มฝึกแล้วกระโดดมาทำวิธีนี้ ร้อยทั้งร้อยท้อถอยจนวิ่งหนีภาษาอังกฤษกันไปหมด
อยากเก่ง ภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มจากการฟัง!
Reviewed by Unknown
on
10:48 AM
Rating:

No comments: